แพทย์แผนจีนในประเทศไทย: การเดินทางข้ามพรมแดนของการแพทย์แผนโบราณ

การแพร่หลายและพัฒนาของแพทย์แผนจีนในประเทศไทยถือเป็นหลักฐานสำคัญของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างจีนและไทย ตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 เป็นต้นมา การแพทย์แผนจีนได้ถูกนำเข้ามาสู่ประเทศไทยผ่านทางผู้อพยพชาวจีน การค้าขาย และเส้นทางสายไหมทางทะเล จนค่อยๆ ฝังรากและเติบโตบนแผ่นดินไทย

ในประเทศไทย แพทย์แผนจีนถูกเรียกว่า “แพทย์แผนจีนไทย” ซึ่งสะท้อนถึงการผสมผสานของระบบการแพทย์ทั้งสองรูปแบบ รัฐบาลไทยมีท่าทีต่อแพทย์แผนจีนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา จากการปฏิเสธในช่วงแรกสู่การยอมรับ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 แพทย์แผนจีนเคยถูกจำกัดในประเทศไทย แต่เมื่อเวลาผ่านไป ประโยชน์ของแพทย์แผนจีนในการรักษาโรคเรื้อรังและการปรับสมดุลร่างกายเริ่มเป็นที่ประจักษ์ ส่งผลให้รัฐบาลไทยหันมาประเมินคุณค่าของแพทย์แผนจีนอีกครั้ง จนกระทั่งในปี 2000 ประเทศไทยได้ให้การยอมรับสถานะทางกฎหมายของแพทย์แผนจีนอย่างเป็นทางการ นับเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ในการพัฒนาแพทย์แผนจีนในไทย

ปัจจุบัน ประเทศไทยมีสถาบันการศึกษาด้านแพทย์แผนจีนหลายแห่งที่ผลิตบุคลากรทางการแพทย์จำนวนมาก นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขของไทยยังได้จัดตั้งหน่วยงานบริหารจัดการแพทย์แผนจีนเพื่อกำกับดูแลการใช้ในการรักษา ตลอดจนมาตรฐานคุณภาพของยา ในเมืองไทยสามารถพบเห็นคลินิกแพทย์แผนจีนและร้านขายยาสมุนไพรได้ทั่วไป การรักษาแบบฝังเข็ม นวดกดจุด และวิธีการแพทย์แผนจีนอื่นๆ ได้รับความนิยมจากประชาชนเป็นอย่างมาก

การเติบโตของแพทย์แผนจีนในไทยยังได้รับแรงสนับสนุนจากรัฐบาลของทั้งสองประเทศ จีนและไทยได้ร่วมมือกันในหลายด้าน เช่น การพัฒนาบุคลากร การวิจัย และการเพาะปลูกสมุนไพร ปัจจุบัน ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการพัฒนาแพทย์แผนจีนนอกประเทศจีนได้อย่างแข็งแกร่งที่สุด

ความสำเร็จของแพทย์แผนจีนในประเทศไทยไม่ได้สะท้อนแค่ในแวดวงการแพทย์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงมิติทางวัฒนธรรมด้วย แพทย์แผนจีนช่วยส่งเสริมความเข้าใจระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศและกระชับความสัมพันธ์ไทย-จีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ด้วยการสนับสนุนจากโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” (Belt and Road Initiative) การพัฒนาแพทย์แผนจีนในประเทศไทยจะมีแนวโน้มที่สดใสยิ่งขึ้น และจะมีส่วนช่วยเสริมสร้างสุขภาพของมนุษยชาติในระดับโลก

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *